เกมการเมืองของ ทักษิณ กับ Entertainment Complex: ใครได้–ใครเสีย?

การกลับมาของ ทักษิณ กลับไทย และเกมการเมืองใหม่

เดือนสิงหาคม 2566 คือจุดเปลี่ยนที่อดีตนายกฯ ทักษิณ เดินทาง กลับไทย หลังลี้ภัยการเมืองยาวนาน เขาได้รับ อภัยโทษ จนโทษจำคุกเหลือเพียงหนึ่งปี ท่ามกลางการจับตาของประชาชนและสังคมการเมืองไทย

การกลับมาครั้งนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องส่วนตัว แต่ตามมาด้วยการผลักดันนโยบายใหญ่ โดยเฉพาะ Entertainment Complex บ่อนคาสิโน หรือ ศูนย์บันเทิงครบวงจร ที่ถูกวางหมากเป็นเครื่องมือทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง

แรงจูงใจของ ทักษิณ ชินวัตร

วิสัยทัศน์เศรษฐกิจ

Entertainment Complex ถูกเสนอว่าเป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ของไทย เพื่อดึงเงินหมุนเวียนใต้ดิน เช่น บ่อนเถื่อน พนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขึ้นมาสู่ระบบภาษี พร้อมสร้างการจ้างงาน การท่องเที่ยว และการลงทุนมหาศาล

กลยุทธ์การเมือง

ทักษิณใช้โครงการนี้สร้างพันธมิตรกับทุนใหญ่และพรรคร่วมรัฐบาล เป็นหมาก “win-win” ที่ช่วยเพิ่มคะแนนนิยมและยึดเสถียรภาพทางการเมือง ขณะเดียวกันยังเป็นการพิสูจน์กับกลุ่มอำนาจเดิมว่าเขายังเป็น “ผู้นำที่แก้ปัญหาได้จริง”

ดีลทางการเมืองและกลุ่มอำนาจ

1. พรรคร่วมรัฐบาล: ต้องเจรจากับพรรคที่กังวลเรื่องภาพลักษณ์และศีลธรรม เช่น พรรคสายอนุรักษ์ รวมถึงฝ่ายค้านที่พร้อมตรวจสอบความโปร่งใส

2. ทุนใหญ่–นักลงทุนต่างชาติ: บริษัทระดับโลก เช่นผู้ประกอบการรีสอร์ตและกาสิโน สนใจลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ในไทย สร้างอำนาจต่อรองให้รัฐบาล

3. สถาบันหลัก: ทักษิณพยายามออกแบบโครงการให้ไม่กระทบศีลธรรมสาธารณะ เช่น กำหนดกฎเข้มงวด ห้ามข้าราชการ–นักการเมืองเล่นพนัน

4. กลุ่มอิทธิพลนอกระบบ: บ่อนเถื่อนและเครือข่ายส่วยอาจเสียผลประโยชน์ แต่บางส่วนอาจปรับตัวเข้าร่วมระบบใหม่เพื่อฟอกตัวเป็นนักธุรกิจ

ใครได้ประโยชน์ ใครเสียผลประโยชน์?

ผู้ได้

• รัฐบาลและพรรคร่วม: ได้ผลงานเชิงเศรษฐกิจและคะแนนนิยม

• ทุนใหญ่: ได้โอกาสลงทุนและกำไรระดับแสนล้าน

• ประชาชนบางส่วน: ได้งานใหม่ รายได้ภาษีเพิ่ม

• กลุ่มอำนาจเดิม: ได้เสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ

ผู้เสีย

• ธุรกิจพนันผิดกฎหมาย: รายได้ใต้โต๊ะหาย

• ประชาชนกลุ่มเปราะบาง: เสี่ยงติดพนันและปัญหาสังคม

• ชุมชนพื้นที่: เสี่ยงอาชญากรรมและธุรกิจสีเทา

• ฝ่ายการเมืองที่สูญเสียพื้นที่: อาจเสียฐานเสียงหากประชาชนหันไปสนใจเศรษฐกิจมากกว่าอุดมการณ์

พลิกโครงสร้างอำนาจไทย

• ในระบบ: Entertainment Complex คือกาวเชื่อมรัฐบาลผสม แต่ก็เสี่ยงหากพรรคร่วมไม่พอใจ

• นอกระบบ: อำนาจเดิมเลือกถอยมาร่วมมือแทนเผชิญหน้า เพราะต้องการเสถียรภาพและป้องกันกระแสการปฏิรูป

ความเสี่ยงและโอกาส

ความเสี่ยง: รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ, แรงต่อต้านด้านศีลธรรม, ปัจจัยเศรษฐกิจโลก, ความเสี่ยงคอร์รัปชัน, และแรงกระแทกจากกระบวนการยุติธรรม

โอกาส: หากสำเร็จ Entertainment Complex จะเปลี่ยนเกมการเมืองไทย สร้างรายได้ใหม่ ยกระดับกติกามาตรฐานสากล และดึงนักลงทุนระดับโลกเข้ามา

เดิมพันครั้งใหม่ของ ทักษิณ

Entertainment Complex คือหมากการเมือง–เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดหลังจาก ทักษิณ กลับไทย และได้รับ อภัยโทษ หากโครงการนี้สำเร็จ เขาอาจถูกจารึกว่า “กลับมาอย่างผู้ชนะ” ที่พลิกเศรษฐกิจและรีเซ็ตสมดุลอำนาจไทย แต่หากพลาด มันอาจเป็น “เดิมพันครั้งสุดท้าย” ที่ทำให้เขาและเครือข่ายถอยกลับสู่มุมอับ

สิ่งที่แน่นอนคือ สังคมไทยกำลังจับตาว่าหมากนี้จะกลายเป็นเส้นทางสู่อนาคตที่มั่งคั่ง หรือจะเป็นบทเรียนการเมืองอีกครั้งหนึ่งของประเทศไทย